1 แสดงถึงความแตกตางของการใช พลังงานอิสระที่แตกตางกันในการยอยสับสเตรต (substrate) เพื่อใหไดเปนผลผลิต โดยพบวา เมื่อมีเอนไซมเขามาเรงปฏิกิริยา จะทําใหมีการพลังงานอิสระที่ต่ํากวาในสภาวะที่ไมมีการใช้ เอนไซม์ ภ าความสําคัญของเอนไซมตอพลังงานอิสระที่ใชในการสรางผลผลิต ที่มา: McDonald et al. (2011 ประเภทของเอนไซมแบงตามสวนประกอบทางเคมี 1. Simple protein หมายถึง เอนไซมที่สามารถมีการเรงทางชีวภาพ (biological activity) ไดโดยไมตองมีสวนที่ไมใชโปรตีน (nonprotein part) เขามาจับ 2.
- การลำเลียงน้ำของพืช |
- ไซเลม xylem
- ไซลีน - th.wikitechpro.com
- เอนไซม์ - เรื่องสารชีวโมเลกุล
- ไซเลม โฟลเอ็ม ใบเลี้ยงคู่
- เมทิลซาลิไซเลต - วิกิพีเดีย
- รีวิว BMW C400GT สกู๊ตเตอร์พรีเมียม มอเตอร์ไซค์ขี่สบายและเท่กว่าใครในคลาส - เช็คราคา รถยนต์-มอเตอร์ไซค์ใหม่ บ้าน-คอนโดใหม่ สินเชื่อ บัตรเครดิต มือถือ-แท็บเล็ตใหม่
x 69. 6 มม. ความจุเครื่องยนต์ 350 ซีซี แรงม้า 25 กิโลวัตต์ (34 แรงม้า) ที่ 7, 500 รอบต่อนาที แรงบิด 35 นิวตันเมตร ที่ 6, 000 รอบต่อนาที อัตรากำลังอัด 11. 5:1 ความเร็วสูงสุด 139 กม. /ชม. อัตราการบริโภคน้ำมัน 3. 51 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ประเภทน้ำมัน น้ำมันเชื้อเพลิงไร้สารตะกั่ว รองรับค่าออกเทน 95 ขึ้นไป ระบบเกียร์ Stepless CVT gearbox เฟรมโครงสร้าง Steel tube construction with aluminum die cast unit ระบบกันสะเทือนล้อหน้า Telescopic front fork 35 mm ระบบกันสะเทือนล้อหลัง Double Aluminum swingarm, Double spring struts, adjustable preload ระยะกันสะเทือนระหว่างล้อหน้า/ ล้อหลัง 110 มม. / 112 มม. ระยะฐานล้อ 1, 565 มม. ขนาดยางล้อหน้า 120/70 ZR 15 ขนาดยางล้อหลัง 150/70 ZR 14 ระบบเบรคล้อหน้า ดิสก์เบรคคู่ขนาด 265 มม. คาลิปเปอร์สี่สูบ ระบบเบรคล้อหลัง ดิสก์เบรคเดี่ยว ขนาด 265 มม. คาลิปเปอร์ลูกสูบเดี่ยว ระบบ ABS BMW Motorrad ABS ความยาว 2, 210 มม. ความกว้าง (รวมกระจก) 835 มม. ความสูงเบาะ 1, 305 มม. ระยะหว่างขา 1, 760 มม. น้ำหนักรถมอเตอร์ไซค์ (น้ำมันเต็มถัง) 212 กก. (น้ำหนักรถเปล่า 203 กก. ) ความจุถังน้ำมัน 12.
การลำเลียงน้ำของพืช |
86 g / mL ของเหลว การละลายในน้ำ ไม่ละลายน้ำ ละลายได้ในตัวทำละลายที่ไม่มีขั้วเช่นอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน จุดหลอมเหลว −47. 4 ° C (−53. 3 ° F; 226 K) −25 ° C (−13 ° F; 248 K) −48 ° C (−54 ° F; 225 K) 13 ° C (55 ° F; 286 K) จุดเดือด 138. 5 ° C (281. 3 ° F; 412 K) 144 ° C (291 ° F; 417 K) 139 ° C (282 ° F; 412 K) 138 ° C (280 ° F; 411 K) ความหนืด 0. 812 cP ที่ 20 ° C (68 ° F) 0. 62 cP ที่ 20 ° C (68 ° F) 0.
- รีวิว BMW C400GT สกู๊ตเตอร์พรีเมียม มอเตอร์ไซค์ขี่สบายและเท่กว่าใครในคลาส - เช็คราคา รถยนต์-มอเตอร์ไซค์ใหม่ บ้าน-คอนโดใหม่ สินเชื่อ บัตรเครดิต มือถือ-แท็บเล็ตใหม่
- เอนไซม์ - เรื่องสารชีวโมเลกุล
- ไซเลม โฟเอม
- Www sso go th มาตรา 39 เยียวยา video
- ไซเลม - บทเรียนออนไลน์กลุ่มที่ 6 เรื่องโครงสร้างของพืชดอก
2. 1) เรงการยายหมู คารบอกซิลภายในโมเลกุลของมาลีเอต กลุมที่6 ไลเกส (ligases) หรือซินเทส (synthase) หมายถึง เอนไซมที่ทําหนาที่เรง การรวมตัวกันของโมเลกุล ดวยการสรางพันธะใหม ไดแก พันธะ C-C, C-S, C-O และ C-N ซึ่งจําเปนตองใชพลังงานจาก ATP ตัวอยางไดแก ไพรูเวต คารบอกซิเลส คุณสมบัติของเอนไซมมีดังตอไปนี้ 1. เอนไซมมีความจําเพาะสูงมาก (high specificity) ตอสารตั้งตน (substrate หรือ reactant) ของ ปฏิกิริยาที่มันเขาเรง ทําใหเอนไซมหนึ่งตัวมักจะเรงเพียงปฏิกิริยาเดียว หรือ หลายปฏิกิริยาที่ตอเนื่องกัน ความจําเพาะสูงทําใหมีผลพลอยได (by-product) นอยมากเมื่อ เทียบกับปฏิกิริยาที่ไมใชเอนไซม 2. เอนไซมเกือบทั้งหมดเปนโปรตีน ที่มีขนาดใหญ ตั้งแต 12, 000 ถึง 1 ลานดาลตัน ความสามารถในการเรงปฏิกิริยาขึ้นกับโครงรูปธรรมชาติ (native conformation) ที่ถูกตอง ถา สูญเสียสภาพธรรมชาติ (denature) หรือแยกออกจากกัน (dissociate) เปนหนวยยอย (subunit) ความสามารถดังกลาว จะลดลงหรือหมดไป ดังนั้นโครงสรางปฐมภูมิ (primary structure) โครงสรางทุติยภูมิ (secondary structure) โครงสรางตติยภูมิ (tertiary structure) และโครงสราง จตุรภูมิ (quaternary structure) มีความสําคัญตอการทํางานของเอนไซม 3.
เอนไซมหลายชนิดทํางานไดดวยตัวของมันเองโดยใชสมบัติของกรดอะมิโน (amino acid) ชนิดตาง ๆ ที่มีในโมเลกุล แตบางชนิดจะตองอาศัยโมเลกุลอื่นชวย ซึ่งจะเรียกโมเลกุลที่ เขาชวยนี้วา โคแฟกเตอร์ ปั จจัยที่มีผลตอการทํางานของเอนไซม 1. อุณหภูมิ เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น การเรงของเอนไซมจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดสูงสุด หนึ่ง (temperature optimum) แลวจะลดลง ซึ่งจําเพาะตามชนิดของเอนไซม สวนใหญอยูในชวง อุณหภูมิ 25–40 C แตที่อุณหภูมิ สูงกวาจุดนี้มากๆ เอนไซมจะเกิดการเสียการเรงทางชีวภาพ 2. คา pH จุดที่ทําใหเอนไซมมีการเรงสูงสุด เรียกวา pH optimum ซึ่งสวนใหญอยู ในชวง pH 6-7. 5 ถา pH สูง หรือต่ําเกินไปจะทําใหเกิดการสูญเสียการเรงทางชีวภาพ 3. ความเขมขนของเอนไซม ที่ความเขมขนของสับสเตรตมากเกินพอ (excess) อัตราเร็วของปฏิกิริยาจะเพิ่มขึ้น เมื่อความเขมขนของเอนไซมเพิ่มขึ้น 4. ความเขมขนของสับสเตรตเมื่อความเขมขนของเอนไซมคงที่ ที่ความเขมขนของ สับสเตรตนอยๆปฏิกิริยาจะเกิดขึ้นดวยอัตราเร็วมากจนกระทั่งถึงความเขมขนของสับสเตรตจุด หนึ่งที่อัตราเร็วของปฏิกิริยาจะคงที่ ความเร็วของปฏิกิริยาที่สูงสุด เรียกวา ความเร็วสูงสุด (Vmax